ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ธรรมเบื้องต้น ตอน ๓ (หน้า ๓)


ทวีศักดิ์   ครับ

อาจารย์   ค่ะ  จิตที่ดับไปแล้วนั่นแหละ เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันที เร็วสุดที่จะประมาณได้ ไม่มีระหว่างขั้น ที่ละ ๑ ขณะ  เพราะฉะนั้น สิ่งที่อยู่ในจิต สิ่งใดเป็นปัจจัยให้จิตเกิด จิตที่เกิดเพราะสิ่งนั้นแหละ จิตก็มีสิ่งนั้นแหละ ที่สะสมอยู่ในจิต สะสม หมายความว่า สมมติว่านะคะ จำครั้งแรกที่เห็น จำแล้วค่ะ ครั้งต่อมา พอเห็นก็รู้ นั่นคือเพราะจำ

ทวีศักดิ์  รู้เพราะจำ

อาจารย์  ตอนนี้ก็คือ เริ่มเข้าใจธรรมะ เริ่มรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เริ่มรู้ทุกคำที่พระองค์ทรงตรัส  ต้องตรัสถึงธรรมะทั้งหมด  แม้ละชั่วก็ไม่ใช่ว่าเรา ทั้งหมดต้องเป็นสิ่งที่มีจริง ซึ่งเป็นจิต หรือเจตสิก หรือรูปอย่างหนึ่ง ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อความจริง ซึ่งมีจริง แต่ถูกปกปิดไว้นานแสนนาน จนกว่าผู้เปิด คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีในขณะนี้

ทวีศักดิ์    รู้เพราะจำ

อาจารย์   รับประทานอาหารอย่างหนึ่งชอบมาก รับประทานบ่อย ๆ แสวงหาบ่อย ๆ เพราะจำ ใช่มั้ยคะ  เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า การสะสมนี้นะคะ สะสมดีและชั่ว ถ้าโกรธคนนั้นนะคะ ไม่ลืม ยังจำได้ว่า ไม่ลืมคนนั้นนะคะ แต่ถ้าโกรธมาก ๆ เข้า บ่อย ๆ คนโกรธนั่นแหละค่ะ เป็นคนเจ้าโทสะ เห็นอะไรก็ไม่ถูกใจไปหมดเลย ส่วนอีกคนก็เจ้าโลภะ เห็นอะไรก็ชอบไปหมด อยากจะได้ไปหมด ไปตลาดอยากซื้อไปหมดเลย ไปตลาดผักก็ดี ปลาก็สด ผลไม้ก็น่ารับประทานทั้งหมดเลย แสดงว่ามีเราหรือจิตที่สะสมสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มาแต่ละ ๑ หลากหลายมาก ถ้าจะนับเป็นหนึ่ง คน ก็ประมาณไม่ได้ว่า อัธยาศัยเป็นต้น ก็ต่างกันตามการสะสม เช่น เดี๋ยวนี้ฟังธรรมเข้าใจแค่ไหน เทียบกันได้มั้ย ขอยืมกันได้มั้ย แลกกันได้มั้ย

เข้าใจที่เกิด แล้วดับ สะสมอยู่ในจิตที่ลึก เกิดแล้วนะคะ เพราะฉะนั้น เมื่อวานนี้ ได้ฟังธรรมเข้าใจแล้ว วันนี้ได้ฟังอีก เห็นมั้ยคะ ความจำจากสิ่งที่ได้เคยฟังเข้าใจ เพิ่มขึ้น ไม่ลืม ทุกอย่างนี่ค่ะ ดีชั่วสะสมอยู่ในจิต เปลี่ยนใครไม่ได้เลย เขาสะสมมาอย่างนั้น ที่จะไม่สนใจธรรมะ แค่เกิดมาสบายแล้วนะคะ สนุกไปวัน ๆ ไม่มีทุกข์ ก็พอแล้ว บางคนคิดอย่างนี้ แต่คนที่สะสมมา เพียงได้ยินค่ะ รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามาก พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าคนนั้นไม่เคยฟังมาก่อน จะเป็นอย่างนี้มั้ยคะ

มีตั้งหลายคน ที่เราไปสนทนาธรรมในที่ต่าง ๆ นี่ค่ะ ใครสนใจแค่ไหน  รู้ได้มั้ย ยิ่งเป็นเยาวชน ก็ยิ่งหลากหลายมาก แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เคยสะสมมาแล้วนี่คะ เปลี่ยนได้มั้ย เพราะไม่มีเรา แต่จิตต่างหาก ที่รู้แล้วจำรู้แล้วจำ รู้แล้วสะสมต่าง ๆ  มีเด็กหลายวัยที่สนใจฟังธรรมะนะคะ ที่มูลนิธิฯ ก็มีเด็กที่ตามคุณพ่อไปคนหนึ่ง อายุ ๑๔ เล็กกว่านี้ก็ยังมีและฟังด้วยจริง ๆ นะคะ ขณะที่เด็กคนอื่นไม่ได้ฟัง แต่ว่าสิ่งแวดล้อมก็สำคัญ เพราะเหตุว่า ถ้าพ่อแม่ไม่ฟัง ลูกไม่มีโอกาสได้ยิน แต่ว่าถ้าฟังบ่อย ๆ นะคะ ไม่ชวนเลยสักคำ เข้าใจเอง ค่อย ๆ ใส่ใจ ค่อย ๆ สนใจ มีคนหนึ่ง่ะ เขาก็ฟังธรรมะมากเป็นปี ๆ หลายสิบ ๆ ปี  เขาไม่รู้เลยว่าลูกเขาฟังด้วย จนกระทั่งลูกเขาบอก หรือว่าเข้าใจธรรมะดีมาก ก็แสดงให้เห็นว่า ระหว่างที่พ่อฟัง แม่ฟัง ลูกฟัง

เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างนี่ค่ะ เป็นที่อาศัย ที่มีกำลัง ที่จะทำให้ เป็นอย่างนั้น

ทวีศักดิ์   นี่แสดงว่า เด็กคนนี้ สะสมมามากครับ

อาจารย์   ถูกต้องค่ะ  ชาติหน้าเด็กคนไหนคะ ถ้าได้ฟังธรรมะเดี๋ยวนี้มาก เข้าใจมาก เกิดอีกก็เป็นคนอีกนะคะ อีก จะเป็นเด็กคนไหน

ผู้พิพากษา   ตอนที่ท่านอาจารย์ ไปบรรยายที่เชียงใหม่ ก็มีสมาชิกท่านหนึ่ง อายุเยอะแล้ว ท่านก็มากราบท่านอาจารย์และะสนทนาธรรม ก็ได้คุยกันว่า ท่านเนี่ย ได้ฟังธรรมะมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ลูกชายก็อยู่ในบ้านนี้ แต่ท่านไม่ได้สนใจ ว่าฟังหรือปล่าว มีอยู่วันหนึ่ง ลูกชายทำงานเกี่ยวกับด้านหุ้น ก็มาถาม มาบอกคุณพ่อว่า มีสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับที่ทำงานเขา  ในเรื่องหุ้น ก็มาปรึกษา แต่เขานี่ตัดสินใจ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง คุณพ่อก็ถามว่า ทำไมถึงมีความคิดอย่างนี้ เขาก็อธิบายว่า เมื่อตอนเด็ก ๆ นี่ คุณพ่อเปิด แล้วท่านอาจารย์ ก็อธิบายว่า ความดีอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร ความชั่วเป็นอย่างไร ก็อธิบายในลักษณะที่เราสนทนากันนี่แหละครับ เด็กที่ฟังมาแต่เด็ก แต่เราไม่รู้ว่าเขาสนใจหรือมีความคิดอย่างไรนี้ แต่ว่าพอถึงเวลานี่ มันสะท้อนให้เห็นว่า การละความชั่วนี่เป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ไปบังคับให้ทำดี ทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เกิดจากความเข้าใจิง อันนี้เป็นเรื่องอธิบายใด้ชัดเจน

ธรรมะที่เขาเกิดขึ้น มีเหตุปัจจัยนี่ครับ ที่ท่านอาจารย์ ได้อธิบายโดยละเอียดนี่ครับ ถึงเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเป็นปกติอย่างนั้นเลย นี่เป็นตัวอย่าง ที่ท่านอาารย์ ได้พูดถึงครับ














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น